"รักที่ดีไม่จำเป็นต้องเติมเต็มอะไรให้กันทั้งนั้น"
เคยได้ยินประโยคนี้จากพี่คนนึง ตอนนั้นก็ค้านในใจเพราะเราอินกับประโยคที่ว่า "ความรักคือการเติมเต็มซึ่งกันและกัน" แต่พอโตขึ้น ผ่านความรักมาเยอะขึ้น ก็เข้าใจว่าในความหมายของพี่คนนั้น
การไม่ต้องให้ใครมาเติมอะไรเพื่อให้เรามีความสุขคือสิ่งที่ดีที่สุด
ความรักก็เหมือนการลงทุนอย่างหนึ่ง เรามักคาดหวังว่าการมีความรักจะมีผลตอบแทนคือทำให้เรามีความสุข ทำให้เราหายเหงา ทำให้สิ่งที่ขาดไปในชีวิตของเราครบสมบูรณ์ขึ้น ก็ถูกต้อง บางครั้งความรักอาจจะตอบโจทย์ตรงนี้ได้จริง ความสุขของเราถูกเติมเต็มด้วยใครอีกคนนึงได้
แต่ถ้าวันนึงมันไม่มีใครคนนั้นแล้วล่ะ?
สิ่งที่พี่คนนั้นบอก คือก่อนจะมีความรัก สิ่งที่ควรรักให้ได้เต็มที่ก่อนคือตัวเอง เคยคิดว่าประโยคนี้มันเชยมาก แต่ไปๆมาๆการมีความสุขกับชีวิตได้ด้วยตัวเองก็กลับเป็นสิ่งที่มั่นคงที่สุดจริงๆ
การเริ่มรักใครเพราะขาดและให้อีกคนมาเติมให้เรา
เมื่อวันนึงไม่มีคนนั้นแล้ว เราจะกลับมาขาดอีกครั้ง และในบางครั้งเราอาจจะรู้สึกขาดกว่าเดิม เพราะเราคิดเสมอว่าจะต้องมีอีกคนมาเติมให้ ชีวิตเราถึงจะสมบูรณ์
การมีความสุขด้วยตัวเองคือการที่เรามีต้นทุนเต็มที่ 100% เหงาบ้างแต่ยังมีความสุขกับชีวิต มีความสุขกับงานที่ทำ สนุกกับเพื่อน ไปเที่ยว ได้กินของอร่อย ได้ดูแลคนที่เรารัก อาจจะไม่สมบูรณ์เต็มร้อย แต่เราก็มีความสุขโดยที่ไม่ได้จำเป็นที่จะต้องมีใคร
สุดท้ายเมื่อเราใช้ชีวิตได้ครบจบกับตัวเองมากพอ เราก็ไม่จำเป็นต้องรีบ ไม่จำเป็นต้องไขว่คว้า หรือโหยหาอะไรมากมาย คนที่เราเลือกเข้ามาเป็นคนรักในชีวิตก็จะเป็นคนที่เราคัดกรองแล้วว่าคนนี้จะทำให้เรามีความสุขขึ้นมากกว่าเดิม หรืออย่างน้อยที่สุดก็เท่าเดิม
รักที่ดีไม่จำเป็นต้องเติมเต็มอะไรให้ใครทั้งนั้น เพราะเราสามารถเติมมันครบได้แล้วด้วยตัวเอง
การมีอีกคนเข้ามาคือกำไร มันไม่ใช่ส่วนเติม
แต่มันคือส่วนเพิ่มที่ทำให้ชีวิตเรามีความสุขขึ้นเท่านั้นเอง
รัก
ช่า บันทึกของตุ๊ด